วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา(2)

แนะนำแหล่งท่องเที่ยวแปดริ้ว 2
13. วัดพยัคฆอินทาราม (วัดเจดีย์) อำเภอเมือง
ตั้งอยู่ตำบลบ้านใหม่ จากหลักฐานแผ่นเงินที่พบที่รอยแตกตรงคอระฆังของเจดีย์องค์ใหญ่ แจ้งว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยนายเสือหรือพระเกรียงไกรกระบวนยุทธ ปลัดเมืองฉะเชิงเทรากับภรรยา ชื่ออิน ได้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้นในปี พ.ศ. 2416 ส่วนวัดนั้นสร้างเสร็จในราวปี พ.ศ. 2424 นับว่าเป็นวัดเก่าแก่ ทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดได้แก่ เจดีย์องค์ใหญ่ 1 องค์ เจดีย์องค์เล็ก 2 องค์ วิหารพระพุทธบาท สุสานเก่า อุโบสถ และหอระฆัง
14. วัดสัมปทวน อำเภอเมือง
เดิมชื่อวัดสามพระทวน ตั้งอยู่บนถนนศุภกิจ ตำบลบางแก้ว เป็นวัดเก่าแก่ มีตำนานเกี่ยวกับหลวงพ่อพุทธโสธร มีพระอุโบสถที่มีลายปูนปั้นอยู่ด้านบนระเบียงโบสถ์แสดงภาพพระเวสสันดรชาดก อีกด้านหนึ่งเป็นภาพวิถีชีวิตชาวแปดริ้วในอดีต หน้าวัดมีหอพระงดงาม บริเวณท่าน้ำจะมองเห็นเขื่อนทดน้ำบางปะกง
15.เขื่อนทดน้ำบางปะกง อำเภอเมือง
ตั้งอยู่บริเวณบ้านไผ่เสวก ตำบลบางแก้ว ห่างจากตัวเมืองไปตามลำน้ำบางปะกงประมาณ 6 กม. ใช้เส้นทางฉะเชิงเทรา – บางคล้า เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำบางปะกง เป็นเขื่อนป้องกันน้ำเค็ม ใช้อุปโภคบริโภค และจัดสรรน้ำเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก
16. ตลาดคลองสวน 100 ปี อำเภอบ้านโพธิ์
ตั้งอยู่ในเขตตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทราและเทศบาลตำบลคลองสวน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ในอดีตคลองสวนเป็นเป็นทางสำหรับเดินทางไปกรุงเทพฯ จากประตูน้ำท่าฉั่ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ล่านผ่านตลาดคลองสวน ก่อนจะแล่นเข้าประตูน้ำวังสระปทุม กรุงเทพฯ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วิถีชีวิตของชาวคลองสวนทั้งชาวไทยจีน ไทยมุสลิม ไทยพุทธ วัฒนธรรมผสมผสานการดำรงชีวิตประจำวันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับบรรยากาศของวิถีชีวิตร่วมสมัยอายุนับ 100 ปี ชิมอาหารอร่อย ขนมหวาน กาแฟสูตรโบราณ ติดต่อ 02 - 7393253
17. อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำเภอบางคล้า
ตั้งอยู่บริเวณปากคลองท่าลาด ห่างจากตัวอำเภอบางคล้า 2 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงใช้เมือง ฉะเชิงเทรา เป็นเส้นทางเดินทัพผ่านในการกอบกู้เอกราชหลังเหตุการณ์เสียกรุง เล่ากันว่าก่อนหน้านั้นเคยเป็นที่ตั้งของเจดีย์อนุสรณ์ชัยชนะของพระองค์ เมื่อสู้รบกับพม่าที่บริเวณนี้ ภายหลังเจดีย์ได้พังทลายลงไปในปี พ.ศ.2484 โดยไม่ทราบสาเหตุแต่ยังคงเล่าเรื่องสืบต่อกันมา และได้สร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2531
18. วัดโพธิ์บางคล้า เขตเทศบาล อำเภอบางคล้า
วัดโพธิ์บางคล้าเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งในฉะเชิงเทรา ที่มีทั้งคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว กำเนิดของวัดบางคล้าย้อนหลังกลับไปจนถึงสมัยอยุธยาตอนปลาย เมื่อกรุงศรีอยุธยาพ่ายแพ้แก่พม่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชหรือพระยากำแพงเพชรในสมัยนั้น ทรงนำพลตีฝ่าข้าศึกมุ่งหน้าจะไปจันทบุรี เมื่อข้ามคลองท่าลาดมาถึงบริเวณปากน้ำโจ้โล้ อำเภอบางคล้าแห่งนี้ ก็ทรงหยุดพักใต้ต้นโพธิ์แห่งหนึ่ง ซึ่งภายหลังจากที่กอบกู้เอกราชได้สำเร็จแล้ว ทรงให้สร้างวัดขึ้นที่บริเวณนี้แล้วให้ชื่อว่า “วัดโพธิ์” น่าเสียดายที่วัดโพธิ์ในวันนี้ทรุดโทรมไปมากแล้ว สิ่งเดิมที่ยังคงเหลือให้เห็นคือมณฑปทรงจัตุรมุขก่ออิฐฉาบปูน หลังคาทรงจั่วซึ่งอยู่ในสภาพชำรุด สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดคือ ฝูงค้างคาวแม่ไก่สีดำขนาดใหญ่นับแสนตัวที่อาศัยเกาะอยู่บนต้นไม้ในวัดนี้จน หนาทึบไปหมด ในยามพลบค่ำ ค้างคาวซึ่งนอนมาตลอดทั้งวันก็จะตื่นส่งเสียงเซ็งแซ่และเริ่มบินออกหากิน เป็นภาพอันน่าตื่นตาและดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก
19. วัดแจ้ง อำเภอบางคล้า
ตั้งอยู่บริเวณตลาดบางคล้า มีพระอุโบสถที่งดงามเป็นศิลปะแบบไทยผสมจีน มีรูปปั้นยักษ์ข้างโบสถ์ ไม่ปรากฏว่าสร้างในปีใด ชาวบ้านเล่นต่อกันมาว่าในสมัยรัชกาลที่ 1 พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชยกทัพไปตีเขมร เดินทัพมาสว่างบริเวณนี้จึงได้สร้างวัดแห่งนี้และขนานนามว่าวัดแจ้ง
20. หมู่บ้านน้ำตาลสด อำเภอบางคล้า
ตั้งอยู่บริเวณบ้านปากน้ำ ตำบลปากน้ำ เป็นแหล่งผลิตน้ำตาลสดพร้อมดื่ม ชมขั้นตอนการผลิตน้ำตาลสดจากต้นตาลโตนดโดยเกษตรกรในแบบดั้งเดิม เริ่มด้วยการปีนต้นตาลสูงระฟ้าเพื่อรองน้ำตาล ต่อด้วยขบวนการต้มน้ำตาลสด ทำน้ำตาลปึก ชิมน้ำตาลสดพร้อมผลหวานชื่นใจ ก่อนกลับเลือกซื้อเป็นของฝากไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลสด น้ำตาลปึก งวงตาลตัวผู้ซึ่งเชื่อว่าจะรักษาโรคเบาหวานได้ ติดต่อ 038-541003
21. ล่องเรือชมโลมา อำเภอบางปะกง
บริเวณตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง โลมาจากอ่าวไทยจะตามแหล่งอาหารมาหากิน เนื่องจากในช่วงเดือน พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ของทุกปีบริเวณนี้จะมีปลาดุกทะเลจำนวนมากซึ่งเป็นอาหารโปรดของปลาโลมาอาศัย อยู่รวมกันเป็นฝูง ประมาณ 40 - 50 ตัว จะกระโดดขึ้นหายใจเหนือผิวน้ำพร้อม ๆ กัน ครั้งละ ประมาณ 3 – 4 ตัว พันธุ์ที่พบมากคือพันธุ์หัวบาตร (สีเทา) และยังพบพันธุ์ปากขวด (สีเทาและสีชมพูบ้าง) ติดต่อ 038 – 573411
22. วัดหงษ์ทอง อำเภอบางปะกง
ตั้งอยู่ที่ ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง เดินทางโดยใช้ถนนสายบางนา – ตราด เลี้ยวเข้าถนนาย 3 สมุทรปราการจากทางเข้าตลาดบางปะกง ระยะทางไม่เกิน 10 กม. เลี้ยวซ้ายที่บริเวณทางเข้ามีรูปหงษ์ทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เป็นวัดที่มีภูมิทัศน์สวยงาม แวดล้อมด้วยทะเลและป่าชายเลน ซึ่ง มีสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติอยู่มาก มีความโดดเด่นที่มีอุโบสถ และพระธาตุคงคามหาเจดีย์ตั้งอยู่กลางทะเลแห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัด ฉะเชิงเทรา
23. ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอพนมสารคาม
ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม ห่างจากตัวอำเภอไปตามถนนสายพนมสารคาม – กบินทร์บุรี ประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตและหายใจ” มีพื้นที่ 264 ไร่ ภายในศูนย์ประกอบด้วยกิจกรรมทางการเกษตรที่น่าสนใจหลายอย่าง ทัศนียภาพสวยงาม
24. คุ้มบุญส่ง อำเภอบางน้ำเปรี้ยว
มีการแสดงผลิตภัณฑ์ สินค้า ภาพศิลป์จากขี้เลื่อยและวัสดุเหลือใช้ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 30 หมู่ที่ 2 ตำบลบางขนาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว เดินทางโดยเริ่มต้นจากถนนสายสุวินทวงศ์ กรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา แยกเข้าถนนเทศบาลตำบลบางขนาก ระยะทางประมาณ 1 กม. เป็นศูนย์ผลิตและจำหน่ายสินค้าศิลป์จากขี้เลื่อยและวัสดุเหลือใช้ มีสถานที่พักอาศัยและลงเรือแจวเที่ยวคลองแสนแสบ ชนนก ตกปลา วิถีชีวิต วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ พร้อมมีอาหารรสชาติอร่อยให้รับประทาน
25. อ่างเก็บน้ำคลองสียัด อำเภอท่าตะเกียบ
ตั้งอยู่ท้องที่ตำบลท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีพื้นที่ 200,000 ไร่เศษ เก็บน้ำได้ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำตลอดปี มีทัศนียภาพและธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ
26. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน อำเภอท่าตะเกียบ
เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ครอบคลุมพื้นที่ 674,352 ไร่ ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่ป่าผืนใหญ่เป็นรอยต่อ 5 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และสระแก้ว เป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของภาคตะวันออก เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำบางปะกงทางด้านจังหวัดฉะเชิงเทรา คลองโตนดจังหวัดจันทบุรี และแม่น้ำประแสร์ในจังหวัดระยอง สภาพภูมิประเทศทั่วไปมีความลาดชันไม่มากนัก โดยทั่วไปมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 30 – 150 เมตร มีพื้นที่ป่าปกคลุมเป็นบริเวณกว้าง มีสัตว์ป่านานาชนิดและนกพันธุ์ต่าง ๆ อาศัยอยู่มากมาย และเป็นที่ตั้งของสถานีวิจัยสัตว์ป่าแห่งแรกของภาคตะวันออก และเป็นแหล่งที่สองของประเทศไทย รองจากสถานีวิจัยสัตว์ป่านางรำ ที่ห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี พืชพรรณธรรมชาติส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบแล้ง มีป่าผสมผลัดใบขึ้นแทรกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ มีไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจหลายอย่าง เช่น ไม้สกุลยาง ไม้มะค่าโมง และยังเป็นแหล่งพันธุกรรม ไม้ผลหลายชนิด เช่น ขนุนป่า ลิ้นจี่ป่า ระกำ ฯลฯ และเป็นแหล่งธนาคารพันธุกรรมของกล้วยไม้ เช่น กล้วยไม้สกุลหวาย สกุลวนิลลา ฯลฯ จากการสำรวจพบแล้วถึง 100 ชนิด ในจำนวนนี้พบ Taeniopphyllum radiatum ซึ่งเป็นกล้วยไม้ที่เล็กที่สุดในประเทศไทย และเพชรหึง (Grammatphyllum speciosum) ซึ่งมีช่อดอกใหญ่ที่สุดในโลก คือ ช่อยาวเกือบ 2 เมตร ลักษณะพันธุ์สัตว์ จากความหลากหลายของสังคมพืช และถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ประกอบกับมีปัจจัยที่จำเป็นในการดำรงชีพของสัตว์ป่า เช่น แหล่งดินโป่ง ฯลฯ ทำให้จำนวนและความหลากหลายของชนิดสัตว์มีสูง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 64 ชนิด จาก 50 สกุล ใน 23 วงศ์ เช่น ช้าง กระทิง วัวแดง นก 246 ชนิดจาก 160 สกุล ใน 16 วงศ์ เช่น นกเงือนกรามช้าง นกขุนทอง ฯลฯ สัตว์เลื้อยคลาน 53 ชนิดจาก 40 สกุลใน 16 วงศ์ เช่น จระเข้น้ำจืด ตะกอง ฯลฯ สัตว์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก 18 ชนิด 9 สกุล ใน 5 วงศ์ เช่น เขียดจก กบหนอง ฯลฯ แมลง 106 ชนิด จาก 76 สกุล ใน 12 วงศ์ เช่น ผีเสื้อนางพญาเขมร ในจำนวนนี้มีสัตว์ป่าที่ถูกคุกคามและใกล้จะสูญพันธุ์ที่สำคัญ คือ ชะนีมงกุฎ เสือลายเมฆ ช้าง นกกระสาคอยาว นกตะกรุม ไก่ฟ้าพญาลอ และจระเข้น้ำจืด ทรัพยากรทางการท่องเที่ยวของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขตอ่างฤๅไน เป็นมรดกล้ำค่า ซึ่งมีความงดงามตามธรรมชาติ นอกจากพืชพรรณ และสัตว์ป่าแล้วยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของพื้นที่ภาคตะวันออก มีน้ำตกที่ไหลตลอดปี คือ น้ำตกบ่อทอง อยู่ที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ่อทองส่วนน้ำตกเขาตะกรุม และน้ำตกอ่างผักหนาม ซึ่งอยู่ที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาใหญ่ แม้จะไม่มีน้ำในฤดูแล้ง แต่เมื่อเข้าฤดูฝนจะมีน้ำตกไหลสวยงามมาก เป็นแหล่งพักผ่อนที่นิยมของชาวบ้านในถิ่น นอกจากนี้ยังมีเขาหินปูนที่มีถ้ำสวยงามอยู่หลายแหล่ง แต่ยังไม่มีการสำรวจอย่างละเอียด ของป่าที่มีมากเป็นพิเศษได้แก่ เร่ว ระกำป่า หวายชนิดต่าง ๆ และไม้กฤษณา
27. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่ากระบกคู่ อำเภอท่าตะเกียบ
ตั้งอยู่บนเส้นทาง 3259 พนมสารคาม – ท่าตะเกียบ ก่อนถึงอำเภอท่าตะเกียบประมาณ 2 กม. เป็นสถานที่วิจัย เพาะเลี้ยง และขยายพันธุ์สัตว์ป่าที่หายากใกล้จะสูญพันธุ์ เปิดเป็นสถานที่ศึกษาวิจัยแก่นักเรียน นิสิตนักศึกษาและผู้สนใจ ภายในมีลิง ชะนี ค่าง หมี นกยูง นกเป็ดก่า ฯลฯ ติดต่อ 01 – 8677439
28. อ่างเก็บน้ำแควระบม อำเภอสนามชัยเขต
เป็นพื้นที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีความจุ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร มีทัศนียภาพสวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ตั้งแคมป์ ตกปลา เล่นน้ำ ขี่จักรยานเสือภูเขา
29. ศูนย์ศึกษาพัฒนาการสังคมหมู่บ้าน บ้านศานติธรรม อำเภอสนามชัยเขต
ใช้ทางหลวงหมายเลข 3245 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3249 ประมาณ 3 กม. ภายในอาณาบริเวณเกือบ 10 ไร่ มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ เป็นสมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ภายในบ้านไม้แบบไทยมุงด้วยกระเบื้องว่าว มีใต้ถุนสูงสำหรับประชุมหรือบรรยาย ชั้นบนใช้เก็บและแสดงเครื่องใช้พื้นบ้านวัตถุโบราณ ของใช้รุ่นเก่าต่าง ๆ ด้านหลังบ้านมียุ้งข้าวจำลองและอุปกรณ์นวดข้าว สีข้าว อีกด้านของบริเวณจัดไว้เป็นที่สำหรับตั้งค่ายพักแรมสำหรับเยาวชน มีลายสันทนาการและบริเวณทำกิจกรรม ติดต่อ 035-597441
30. วัดพระธาตุวาโย (วัดห้วยน้ำทรัพย์) ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลลาดกระทิง
ใช้เส้นทางสนามชัยเขต – ท่าตะเกียบ ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 9 กม. หน้าวัดมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่มาก มีเจดีย์ทรงระฆังประดับด้วยกระเบื้องสีเหลือง น้ำเงิน ขาว งดงามแปลกตา ด้านในมีพระพุทธรูป จำนวนมาก มีภาพเขียนสีน้ำมันเป็นเรื่องราวประวัติการสร้างวัด มีบันไดขึ้นไปด้านบนหลายชั้น ชั้นบนสุดมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ บริเวณใกล้กันมีอ่างเก็บน้ำลาดกระทิงเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก มีภูมิทัศน์โดยรอบคงความเป็นธรรมชาติ เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อน ชมธรรมชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น